วิธีเลือกทนายความ
หัวข้อในหน้านี้
- วีธีเลือกทนายความ โดย ทนายภูวงษ์ โพธิ์ไทร
- วีธีเลือกทนายความ โดย วารสารศาลยุติธรรม
- วีธีเลือกทนายความ โดย AI
- สู้คดีอย่างไรให้ชนะ
- สู้คดีแพ่งอย่างไรให้ชนะ
- สู้คดีอาญาอย่างไรให้ชนะ
เลือกทนายความอย่างไรให้เหมาะกับงาน Put the right lawyer on the right job
* สอบถามเพื่อนหรือคนรู้จักว่ารู้จักกับทนายความคนใหนบ้าง เลือกที่อยู่ใกล้บ้านคุณหรือใกล้ศาลที่คดีเกิดนะครับ หรือ
* ค้นหาชื่อทนายจาก Google มาสัก 2 ชื่อ
* โทรหาทนายทีละคนสนทนาปัญหาปรึกษาให้ครบ สอบถามอัตราค่าจ้างให้เรียบร้อย ถ้าจะให้ดียอมจ่ายค่าที่ปรึกษาบ้าง จะจ่ายแบบปรึกษาครั้งเดียวเป็นรายชั่วโมง เลือกปรึกษาตลอดคดี หรือเลือกแบบรายปีก็มีเช่นกัน เบื้องต้นเลือกปรึกษารายชั่วโมงก่อนนะครับ (ชั่วโมงละ 1000-5000 บาท) ไม่แพงครับ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทนายความแต่ละคน
* เลือกทนายความคนที่คุณสนทนาและคิดว่าใช่ น่าจะช่วยคุณได้ คิดว่าสามารถช่วยแก้ปัญหาให้คุณได้แน่
* ทำสัญญาจ้างหรือตกลงจ้างทางไลน์ เมสเซ็นเจอร์ หรืออีเมลก็ได้ ควรแบ่งจ่าย ศาลชั้นต้น อุทธรณ์หรือฎีกา แบ่งจ่ายเป็นงวดๆ เช่นงวด 1 ตกลงจ้าง งวดที่ 2 ขึ้นศาล งวดที่ 3 สืบพยาน
* อย่าลืมไปเยี่ยมชม สำนักงานทนายความคนที่ท่านว่าจ้างนะครับ คุณจะได้รู้ว่าในสำนักงานมีทนายความกี่คน มีทีมงานมั้ย สำคัญคือน่าเชื่อถือหรือไม่
* ควรเลือกทนายความที่อยู่ใกล้คุณ หรือทนายใกล้ศาล เพราะท่านจะไม่ต้องจ่ายค่าเดินทางและค่าที่พักให้กับทนายเวลาไปทำงานให้คุณ ยกเว้นคดีที่มีอัตราโทษสูงๆ คุณควรเลือกทนายความที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเป็นสำคัญ
* ตกลงกับทนายความส่งรายงานคดีหรือการทำงานแต่ละครั้งที่ไปทำงานให้คุณด้วย
* ถ้าคดีที่มีอัตราโทษสูงหรือจำนวนเงินค่าเสียหายเยอะควรจ้างเป็นทีม หรือเลือกทนายที่มีประสบการณ์ในคดี ให้ดูที่ผลงานหรือข้อมูลที่ตรวจสอบได้
หมายเหตุ หากท่านไม่รู้จักทนายความคนใหนเลย แนะนำให้ติดต่อทนายความพื้นที่และทนายความในเวปไซต์นี้ได้เลย เพราะเครือข่ายได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นทนายความจริง มีประสบการณ์ในการทำงานจริงไว้ใจได้ครับ
วิธีเลือกทนายความ โดยวารสารศาลยุติธรรม
คำแนะนำโดยวารสารศาลยุติธรรม 10 ประการ ในการแต่งตั้งทนายความ
1. ขอดูใบอนุญาตทนายความ ต้นฉบับผู้ประกอบอาชีพทนายความ ต้องได้รับอนุญาตจากสภาทนายความเท่านั้น
2. ถามทนายความว่า มีความสัมพันธ์ส่วนได้อะไรหรือเคยทำงานให้กับบุคคลที่จะเป็นคู่ความกับต้นหรือไม่ เพราะหากมีการแต่งตั้งให้เป็นทนายแล้ว ทนายความบางคนอาจจะมีผลประโยชน์ขัดกันในการทำหน้าที่เป็นทนายความให้แก่ลูกความ
3. สอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายในคดีและค่าทนายความ เนื่องจากทนายความมีวิธีการเรียกค่าใช้จ่ายและค่าทนายความไม่เหมือนกัน ซึ่งโดยทั่วไปทนายความจะขอให้ลูกความเล่าเรื่องย่อ แล้วจะให้ความเห็นและแนวทางการปฏิบัติตามกฎหมายก่อนจึงจะกำหนดค่าใช้จ่ายและค่าทนายความ ซึ่งควรสอบถามรายละเอียดหรือข้อสงสัยเพื่อให้ทนายความอธิบายให้ชัดเจนด้วย
4. เมื่อได้สอบถามปัญหาต่างๆ จนเป็นที่พอใจว่า จะว่าจ้างทนายความคนดังกล่าวแล้ว ก็ควรส่งมอบข้อมูลคดีให้ทนายความดำเนินการโดยให้ทำหลักฐานการรับเอกสารไว้ด้วย
5. ควรขอให้ทนายความทำหนังสือสัญญาว่าความให้ละเอียดถูกต้องตามที่ได้เจรจากันมา หากมีข้อสงสัยในหนังสือสัญญาข้อใดไม่ชัดเจนก็ขอให้ทนายความชี้แจงและขยายความเพื่อมิให้เป็นปัญหาในภายหลัง
6. ควรเก็บสำเนาเอกสารที่ส่งมอบให้แก่ทนายความตลอดจนเอกสารต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคดีให้เป็นหมวดหมู่เพื่อประโยชน์ในการค้นหาและติดตามคดี
7. ควรติดตามผลคดีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะได้มอบหมายให้ทนายความดำเนินการแล้วก็ตาม เพราะผลดีหรือผลเสียแห่งคดีย่อมต้องตกแก่คู่ความตัวลูกความเพียงฝ่ายเดียว โดยให้บันทึกหมายเลขคดีดำและชื่อศาลไว้เป็นหลักฐาน
8. หากคู่ความฝ่ายตรงข้ามติดต่อมาหรือมีข้อมูลอื่นเพิ่มเติม ต้องรีบแจ้งให้ทนายความทราบทันที เพราะอาจจะเป็นประโยชน์ในการดำเนินคดี
9. เมื่อมีปัญหาข้อข้องใจเกี่ยวกับคดีให้รีบสอบถามหรือขอคำอธิบายจากทนายความทันทีอย่ามัวแต่เกรงใจเพราะปัญหาข้อข้องใจดังกล่าวอาจทำให้ผลงานของคดีได้รับความเสียหายหรือกลายเป็นปัญหาใหญ่ติดตามมาก็ได
10. ค่าใช้จ่ายหรือค่าธรรมเนียมที่ชำระให้แก่ศาล ศาลจะออกใบเสร็จรับเงินให้ทุกครั้ง หากมีข้อสงสัยควรตรวจสอบใบเสร็จรับเงินจากทนายความ
หากในใบแต่งตั้งทนายกำหนดให้ทนายมีอำนาจรับเงินจากศาลและคู่ความยังไม่ได้รับเงินคู่ความควรตรวจสอบจากทนายความและศาลว่ามีการรับเงินแทนแล้วหรือไม่
*******************************************************************
วิธีเลือกทนายความ โดย AI
การเลือกทนายความที่เหมาะสมเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้คุณได้รับการแทนที่ในเรื่องกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้คือคำแนะนำด้านหลักๆ ในการเลือกทนายความ:
1. **ระบุความต้องการของคุณ**: แยกระบุประเภทของคดีหรือปัญหากฎหมายที่คุณต้องการการช่วยเหลือ เช่น คดีอาญา, ครอบครัว, ธุรกิจ, ทรัพย์สิน, หรือความเชี่ยวชาญอื่นๆ
2. **ขอคำแนะนำ**: ถามคำแนะนำจากเพื่อนสนิท, ครอบครัว, หรือผู้ที่เคยรับบริการจากทนายความ เพื่อหาข้อมูลจริงจากประสบการณ์ที่ผ่านมา
3. **ตรวจสอบประวัติและความเชี่ยวชาญ**: เมื่อคุณมีรายชื่อทนายความในมือ ให้ตรวจสอบประวัติการทำงาน, ความเชี่ยวชาญ, และประสบการณ์ในการจัดการคดีที่เหมือนหรือใกล้เคียงกับของคุณ
4. **ตรวจสอบความคิดเห็นและการรับรอง**: ค้นหาความคิดเห็นจากลูกค้าก่อนหน้าและตรวจสอบว่ามีการรับรองจากหน่วยงานอาชีพหรือไม่
5. **ปรึกษาหารือกับทนายความหลายคน**: ทำนัดปรึกษาหารือก่อนตัดสินใจเลือก ในการเข้าพบ เตรียมคำถามที่คุณอยากทราบ เช่น วิธีการจัดการคดี, รูปแบบค่าใช้จ่าย, และการคาดการณ์ผลลัพธ์
6. **พิจารณาค่าใช้จ่าย**: ค่าบริการของทนายความสามารถแตกต่างกันไป สอบถามให้เข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับค่าบริการ และวิธีคำนวณ เพื่อที่คุณจะไม่ต้องเจอกับค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด
7. **ตรวจสอบความสามารถและการสื่อสาร**: ความสามารถในการสื่อสารที่ดีถือเป็นปัจจัยสำคัญ เลือกทนายความที่คุณสามารถสื่อสารได้ง่าย และทำให้คุณรู้สึกว่าคำถามหรือข้อกังวลของคุณได้รับการตอบสนอง
การเลือกทนายความที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณได้รับการตัดสินที่ดีที่สุดในคดีของคุณ ใช้เวลาในการวิจัยและการพิจารณาที่เหมาะสม เพื่อเลือกคนที่มีคุณสมบัติและประสบการณ์ตรงกับคดีของคุณอย่างแท้จริง
สู้คดีอย่างไรให้ชนะ
การสู้คดีให้มีโอกาสชนะสูงที่สุดนั้นต้องการการเตรียมตัวที่ดีและการปฏิบัติตามขั้นตอนต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ดังนี้:
### 1. ศึกษาข้อมูลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- **เข้าใจข้อกล่าวหา/ข้อโต้แย้ง**: ศึกษารายละเอียดของคดีและประเด็นที่เป็นข้อพิพาท
- **ศึกษากฎหมาย**: ค้นคว้ากฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับคดีของคุณอย่างละเอียด
### 2. รวบรวมและจัดเตรียมหลักฐาน
- **เอกสาร**: รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เช่น สัญญา บันทึกข้อความ อีเมล หรือรายงานต่าง ๆ
- **พยานหลักฐาน**: เตรียมพยานที่สามารถให้การสนับสนุนคำกล่าวของคุณได้ ติดต่อพยานล่วงหน้าและเตรียมคำให้การให้ดี
### 3. หาทนายความที่มีความเชี่ยวชาญ
- **ทนายความ**: เลือกทนายความที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีของคุณ
- **การสื่อสาร**: สื่อสารกับทนายความของคุณอย่างเปิดเผยเพื่อให้เขาได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนและสามารถวางแผนการต่อสู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
### 4. วางแผนกลยุทธ์
- **เตรียมการในสนาม**: วางแผนว่าจะนำเสนอหลักฐานและพยานอย่างไร เตรียมตอบคำถามของฝ่ายตรงข้าม
- **จุดเด่นและจุดด้อย**: ระบุจุดแข็งและจุดอ่อนของคดี และเตรียมการรับมือกับข้อกล่าวหาหรือข้อโต้แย้งจากฝ่ายตรงข้าม
### 5. ดำเนินการตามระเบียบศาล
- **กำหนดเวลา**: รักษากำหนดเวลาที่ศาลกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เสียสิทธิ์ในการยื่นคำร้องหรือหลักฐานต่าง ๆ
- **ปฏิบัติตามขั้นตอน**: ปฏิบัติตามกระบวนการของศาลและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการพิจารณาคดีทุกครั้ง
### 6. การพิจารณาข้อเสนอไกล่เกลี่ย
- **การไกล่เกลี่ย**: พิจารณาข้อเสนอการไกล่เกลี่ยจากฝ่ายตรงข้ามอย่างรอบคอบ และปรึกษากับทนายว่าข้อเสนอไกล่เกลี่ยนั้นมีความน่าสนใจและเหมาะสมหรือไม่
### 7. เตรียมใจและรักษาความสงบ
- **สุขภาพจิต**: รักษาจิตใจให้มั่นคง ไม่ใช้อารมณ์ในการพิจารณาคดีหรือการติดต่อกับฝ่ายตรงข้าม
- **ความเชื่อมั่น**: เชื่อมั่นในหลักฐานและกลยุทธ์ที่เตรียมไว้ ร่วมงานกับทนายเพื่อให้การต่อสู้คดีมีประสิทธิภาพ
### 8. ฟังคำแนะนำจากทนาย
- **การปรึกษา**: ฟังคำแนะนำและความคิดเห็นจากทนายอย่างตั้งใจ เพราะทนายมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่จะช่วยให้คุณผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ในกระบวนการทางกฎหมายได้
การเตรียมตัวและการร่วมมือกับทนายความอย่างใกล้ชิดจะช่วยให้คุณมีโอกาสชนะคดีมากที่สุด.
สู้คดีแพ่งอย่างไรให้ชนะ
การชนะคดีแพ่งจำเป็นต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนที่สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะคดีแพ่งได้:
1. **หาทนายความที่เชี่ยวชาญ**:
- เลือกทนายความที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคดีของคุณ
2. **รวบรวมหลักฐาน**:
- เก็บรวบรวมเอกสาร หลักฐาน รูปภาพ และพยานบุคคลที่สามารถสนับสนุนข้อกล่าวหาหรือข้อต่อสู้ของคุณได้
- รวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้
3. **เตรียมข้อโต้แย้งที่แข็งแรง**:
- พัฒนาข้อโต้แย้งที่มีเหตุผลและมีหลักฐานสนับสนุน
- มีการศึกษากฎหมายและกรณีที่น่าสนใจที่อาจสนับสนุนข้อโต้แย้งของคุณ
4. **ปฏิบัติตามขั้นตอนกฎหมาย**:
- ดำเนินการทุกขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนด เช่น การยื่นฟ้อง การตอบกระทู้ และการยื่นเอกสารที่เกี่ยวข้อง
5. **จัดการกับข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ**:
- ค้นหาข้อเท็จจริงที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้
- ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือสร้างหลักฐานที่ไม่เป็นความจริง
6. **เตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ในศาล**:
- ฝึกฝนการพูดในศาล
- เตรียมคำถามและคำตอบที่อาจเกิดขึ้น
7. **การตรวจสอบพยาน**:
- ศึกษาวิธีการตั้งคำถามโดยตรงและการข้ามคำถามพยานในศาล
- หากมีพยาน ต้องเตรียมงานให้พยานของคุณพร้อมในการให้การ
8. **การเจรจาต่อรอง**:
- ถ้ามีโอกาส ควรพิจารณาเจรจาต่อรองเพื่อหาข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายพอใจ
- การเจรจาในบางครั้งสามารถเป็นการลดความเสี่ยงของการแพ้คดีได้
9. **มีความอดทนและไม่ล้มเลิก**:
- คดีแพ่งอาจใช้เวลานาน ควรมีความอดทนและตั้งใจในการต่อสู้
10. **ศึกษาคำตัดสินย้อนหลัง**:
- ดูคำตัดสินของคดีที่ผ่านมาในเรื่องที่คล้ายกัน เพื่อเรียนรู้แนวทางในการต่อสู้คดี
การชนะคดีแพ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยการเตรียมพร้อมและความเฉียบคม คุณจะมีโอกาสที่ดีกว่าในการชนะคดี. หากต้องการคำปรึกษาในรายละเอียดเพิ่มเติมควรปรึกษาทนายความที่เชี่ยวชาญ.
สู้คดีอาญาอย่างไรให้ชนะ
การสู้คดีอาญาให้มีโอกาสชนะต้องมีการวางแผนและเตรียมการที่ดี นี่คือขั้นตอนบางอย่างที่อาจช่วยได้:
1. **จ้างทนายที่มีประสบการณ์**: ทนายที่เชี่ยวชาญในคดีอาญาสามารถช่วยให้คำแนะนำและวางแผนการสู้คดีได้ดีขึ้น
2. **รวบรวมหลักฐาน**: รวบรวมหลักฐานให้มากที่สุด เช่น พยานหลักฐาน วิดีโอ รูปถ่าย หรือเอกสารที่เกี่ยวข้อง
3. **เตรียมพยาน**: หากคุณมีพยานที่เห็นเหตุการณ์ แน่ใจว่าพยานสามารถให้ข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ต่อคุณ
4. **ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้อง**: เข้าใจข้อกฎหมายที่ใช้บังคับและรู้ว่าอะไรคือสิทธิของคุณ
5. **เตรียมตัวต่อศาล**: ซักซ้อมการตอบคำถามกับทนายของคุณหากต้องขึ้นให้การในศาล
6. **ใช้ผู้เชี่ยวชาญ**: หากจำเป็น ใช้บริการผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักวิทยาศาสตร์ นักจิตวิทยา หรือนักสืบ ให้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม
7. **สร้างภาพลักษณ์ที่ดี**: การแสดงตนและการปฏิบัติตนในศาลอย่างสุภาพและน่าเชื่อถือมีความสำคัญ
8. **ไม่พูดเกินความจำเป็น**: หลีกเลี่ยงการพูดเกินความจำเป็นกับตำรวจหรือฝ่ายตรงข้าม
การเตรียมตัวที่ดีและการทำงานร่วมกับทนายที่เก่งสามารถเพิ่มโอกาสในการสู้คดีให้ชนะได้